ตี๋น้อยแห่งบ่อทอง

ตี๋น้อยแห่งบ่อทอง
เด็กคนนี้น่ารักที่สุดในจักรวาล

วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

การ์ตูนในตำนานของเด็กไทย

การ์ตูนในตำนานของเด็กไทย

1. โรงเรียนลูกผู้ชาย
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ โรงเรียนลูกผู้ชายผลการค้นหารูปภาพสำหรับ โรงเรียนลูกผู้ชายผลการค้นหารูปภาพสำหรับ โรงเรียนลูกผู้ชาย

โรงเรียนลูกผู้ชาย หรือ ขุนพลประจัญบาน หรือ นักเรียนนายร้อยเดนตาย (ญี่ปุ่น魁!!男塾 Sakigake!! Otokojuku) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นแนวโชเน็น เขียนโดยอากิระ มิยาชิตะ ตีพิมพ์เป็นตอนในโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ระหว่างปี ค.ศ. 1985 ถึง 1991 ตีพิมพ์รวมเล่มโดยสำนักพิมพ์ชูเอย์ฉะ จำนวน 34 เล่ม
โรงเรียนลูกผู้ชายเป็นมังงะแนวต่อสู้-ขบขัน ใช้มุกตลกแบบเกินจริง กล่าวถึงโรงเรียนชื่อ โอโตโกจุกุ เป็นโรงเรียนชายล้วนที่มีลักษณะเหมือนโรงเรียนดัดสันดาน รับเด็กเกเรเข้ามาฝึกศิลปะการป้องกันตัว และฝึกฝนวินัยการเชียร์กีฬาแบบญี่ปุ่นที่เรียกว่า Ōendan (応援団) ตัวละครเอกในเรื่อง ได้แก่ครูใหญ่ของโรงเรียน ชื่อ เฮฮาจิ เอดะจิม่า อดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่สอง, โมโมทาโร ซึรุงิ หรือ โมโม นักเรียนปีหนึ่ง และ โอมิโตะ ดะเตะ อดีตหัวหน้านักเรียน
ในประเทศไทย มังงะเรื่องนี้เคยตีพิมพ์ในหลายชื่อโดยหลายสำนักพิมพ์ เนื่องจากในขณะนั้นยังไม่มีกฎหมายลิขสิทธิ์ ได้แก่ "ขุนพลประจัญบาน", "สำนักบุรุษเหล็ก" หรือ "นักเรียนนายร้อยเดนตาย" [1]
โรงเรียนลูกผู้ชายถูกนำมาสร้างเป็นอะนิเมะโดยโตเอแอนิเมชัน ออกอากาศทางฟูจิทีวีจำนวน 34 ตอน ในปี 1988 สร้างเป็นภาพยนตร์ที่ใช้คนแสดงในปี 2008 [2] และยังมีมังงะภาคต่อ ได้แก่
  • โรงเรียนลูกผู้ชาย ภาค 2 (ญี่ปุ่น曉!!男塾 青年よ、大死を抱け Akatsuki! Otokojuku: Seinen yo, Daishi wo Idake) ตั้งแต่ปี 2001 ยังตีพิมพ์อยู่ในปัจจุบัน
  • ลูกผู้ชายอันดับ 1 ตำนานเอดาจิมะ เฮฮาจิ (ญี่ปุ่น天下無双 江田島平八伝 Tenkamusou Edajima Heihachi Den)

2.รันม่า ½

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รันม่าผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รันม่า


รันม่า ½ (ญี่ปุ่นらんま1/2 Ranma nibun-no-ichi "Ranma one half") หรือ ไอ้หนุ่มกังฟู เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น เรื่องและภาพโดยทากาฮาชิ รูมิโกะซึ่งเป็นผู้แต่งการ์ตูนญี่ปุ่นที่เป็นที่รู้จักอีกหลายเรื่อง เช่น ลามู ทรามวัยจากต่างดาว และ เทพอสูรจิ้งจอกเงิน ซึ่งถือว่าเป็นที่นิยมสำหรับเด็กมัธยมต้นในญี่ปุ่นช่วงปี 90 เป็นอย่างมาก และเป็นที่นิยมกับต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา เนื่องมาจากลักษณะการเขียนของการ์ตูนเรื่องนี้ มีอิทธิพลในการ์ตูนใหม่ๆหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสลับเพศ มุขตลกหน้าตาย คาแรกเตอร์ประหลาดๆเช่นจอมหลงทาง มนุษย์สายตาสั้นสุดๆ สาวซึนเดเระ และมุขเตะกระเด็นบินขึ้นฟ้า จนปัจจุบันนี้การ์ตูนที่มี่ลักษณะคล้ายๆกันถูกผลิตออกมานับไม่ถ้วน
รันม่ายังมีในรูปแบบวิดีโอเกมส์หลายรูปแบบการเล่นไม่ว่าจะเป็น เกมต่อสู้ หรือเกมRPG

3.โจโจ้ ล่าข้ามสตวรรษ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษผลการค้นหารูปภาพสำหรับ โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ

โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ (ญี่ปุ่นジョジョの奇妙な冒険 Jojo no Kimyō na Bōken ; อังกฤษJoJo's Bizarre Adventure) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น(มังงะ) แนวแฟนตาซี แอ็กชัน ผจญภัย เขียนโดย ฮิโรฮิโกะ อารากิ ลงตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ ในเครือสำนักพิมพ์ชูเอฉะตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 - 2547 ทั้งหมด 6 ภาคจบ ส่วนลิขสิทธิ์ในประเทศไทยเป็นของ บริษัท เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด ซึ่งตีพิมพ์จบสมบูรณ์ทั้ง 6 ภาคแล้ว ด้วยจำนวนเล่มตั้งแต่ภาคที่ 1 ถึง 5 จำนวน 63 เล่มจบ และภาคที่ 6 (ซึ่งพิมพ์นับจำนวนเล่มใหม่) 17 เล่มจบ
เนื้อหาหลักทั้งหมดของทั้ง 6 ภาคนั้นจะเป็นเรื่องราวของการผจญภัยของบุคคลที่มีสายเลือดของตระกูลโจสตาร์ โดยที่ตัวละครเอกทุกภาคนั้นจะมีความเกี่ยวข้องกันโดยสายเลือดทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งมี โจนาธาน โจสตาร์ ตัวละครเอกของภาคที่ 1 เป็นต้นตระกูล โดยจะแบ่งเรื่องทั้งชุดออกได้เป็นสองช่วงหลัก ๆ นั่นคือ ช่วงแรก (ภาคที่ 1-2) จะใช้ความสามารถของ "พลังคลื่นมนตรา" ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับลมปราณภายใน ต้องใช้การไหลเวียนของเลือดและการควบคุมลมหายใจ มาต่อสู้กับตัวร้ายที่เป็นผีดิบ และช่วงที่ 2 (ภาคที่ 3-6) จะใช้ความสามารถที่เรียกว่า "สแตนด์" (Stand) ซึ่งเป็นพลังจิตที่ผู้ใช้สแตนด์สร้างให้มีตัวตนขึ้น และ มีความสามารถแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลเข้าต่อสู้กัน
อย่างไรก็ตามในภาคที่ 7 : สตีล บอล รัน ช่วงแรกผู้เขียนตั้งใจจะให้เป็นเนื้อเรื่องแยกออกมาจากเนื้อเรื่องเดิม โดยเปรียบเสมือนเป็นโลกคู่ขนานของซีรีส์หลัก (หรือจะเรียกว่า Reboot ก็ได้) เนื้อหาเกี่ยวกับการแข่งม้าข้ามทวีปอเมริกาที่ชื่อ สตีล บอล รัน แต่ในภายหลังก็ตัดสินใจยกให้เป็นโจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ ภาคที่ 7 (เริ่มตั้งแต่รวมเล่ม 5) และนำแนวคิดของความสามารถสแตนด์กลับมาใช้ในเรื่องเหมือนเดิม
ปัจจุบันโจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษได้ดำเนินเรื่องมาจนถึงภาคที่ 8 แล้วในชื่อภาค โจโจเลี่ยน (Jojolion) ซึ่งเป็นภาคที่มีเหตุการณ์ต่อจากภาค 7 เนื้อเรื่องได้ดำเนินไปในปี 2011 ที่ประเทศญี่ปุ่นในเมืองที่สมมติชื่อขึ้นมาว่า "โมริโอ" ซึ่งเหมือนกับในภาคที่ 4 แต่ว่าเมืองโมริโอในภาค 4 กับภาค 8 นั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด

4.คอบบร้า
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ คอบบร้าผลการค้นหารูปภาพสำหรับ คอบบร้า

คอบร้า เห่าไฟสายฟ้า (ญี่ปุ่นコブラ Kobura ; อังกฤษCobra) เป็นการ์ตูนไซไฟ ผลงานของ บูอิจิ เทราซาวะ ซึ่งมีทั้งภาพยนตร์การ์ตูนและการ์ตูนทีวี เรื่องราวของคอบร้าสลัดอวกาศที่มีแขนซ้ายเป็นปืนไซโคกัน (Psycho-gun) ซึ่งเป็นปืนเลเซอร์ที่สามารถควบคุมทิศทางลำแสงของปืนได้ด้วยพลังจิต ที่มีคอบร้าใช้เพียงคนเดียวในจักรวาล และใช้พลังงานจากร่างกายมาเป็นกระสุนของปืนไซโคกัน คอบร้าที่มีร่างกายแข็งแกร่งมากกว่าคนปกติทั่วไปมาแต่กำเนิด มีพละกำลังและความอึดมหาศาล ทำให้ปืนไซโคกัน จึงดูเหมือนยิงได้ไม่มีวันหมด
คอบบร้าแต่เดิมนั้นเป็นโจรสลัดอิสระ รูปหล่อ ปล้นไปทั่วจักรวาล เป็นโจรที่ปล้นโดยไม่เคยฆ่าคนบริสุทธิ์ มีค่าหัวเป็นอันดับหนึ่งในจักรวาล มีอาวุธเป็นปืนสั้นลูกโม่ 6 นัด ยี่ห้อ โคลท์ ไพธ่อน .77 แม็กนั่ม (ด้ามสลักรูปงูเห่า)และปืนสั้นเลเซอร์ธรรมดาอีก 1 กระบอก มียานเตอร์เติลเป็นพาหนะ(เป็นยานที่ไม่มีปีกมีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยม สร้างด้วยวิทยาการของมนุษย์ที่มีขนาดเล็กแต่ทรงอานุภาพมากที่สุดในกลุ่มยานที่เดินทางไกลในจักรวาลด้วยกัน ใช้แบตเตอรี่ที่ประจุพลังงานจากแสงสว่างและความร้อนเป็นเชื้อเพลิง ที่ใต้ท้องยานยังมียานดำน้ำขนาดเล็กติดไว้ ด้านข้างหัวยานมีช่องยิงมิสไซด์ข้างละ 2 ช่อง มีช่องยิงปืนแสงข้างละ 1 ช่อง สามารถยิงได้ทั้งเลเซอร์และพลาสม่า) มีคู่หูเป็นอาเมอร์รอย(หุ่นยนต์ที่ดัดแปลงจากคนจริง ๆ ซึ่งเป็นแฟนเก่าของคอบบร้า ด้วยวิทยาการไบโอชีวะ ชื่อเลดี้ ซึ่งมีเพียงตัวเดียวในจักรวาลเช่นกัน

5.คุจากุ
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ คุจากุ

"คุจากุโอ" (ราชานกยูง) เป็นหนังสือการ์ตูนผลงานของ "โอกิโนะ มาโคโตะ" เริ่มตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1985 และมีการเขียนภาคต่อเรื่อยๆออกมาถึงปัจจุบัน โดยฉบับเมก้าไดร์ฟนี้ได้จับเอาตอนพิเศษที่สร้างเป็นการ์ตูนทีวี "KujakuOh 2 GeneiJou" ว่าด้วยการคืนชีพของมารฟ้าลำดับที่หก "โอดะโนบุนากะ" ผู้ซึ่งจับตัวสาวน้อย "อาชูร่า" ไป

6.เซนต์ เซย่า
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เซนต์ เซย่าผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เซนต์ เซย่า

เซนต์เซย์ย่า (ญี่ปุ่น聖闘士星矢 Seinto Seiya เซนโตะเซยะ) เป็นชื่อของหนังสือการ์ตูน ซึ่งแต่งขึ้นโดย มาซามิ คุรุมาดะ ซึ่งใช้กลุ่มดาวม้าบินมาเป็นตัวเอกของเรื่อง เนื่องจากม้าบินกำลังอยู่ในท่าทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ตรงกับภาพลักษณ์ของตัวเอกที่เขาได้คิดไว้นั่นเอง โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กหนุ่ม 5 คนที่เรียกว่า เซนต์ (saint) ต่อสู้โดยใช้ร่างกายของตนเองเป็นอาวุธเพื่อปกป้องคิโดะ ซาโอริ ผู้เป็นอวตารของเทพีอะธีนา และต่อสู้กับทัพศัตรูแห่งความชั่วร้าย ในโลกร่วมสมัยที่มีบรรยากาศของเทพปกรณัมกรีก
ในประเทศญี่ปุ่น เซนต์เซย์ย่าลงตีพิมพ์เป็นครั้งแรกในนิตยสารโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ ของสำนักพิมพ์ชูเอฉะ และออกเป็นหนังสือรวมเล่มจำนวน 28 เล่มจบ ส่วนในประเทศไทย สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจได้รับสิทธิ์ในการตีพิมพ์ฉบับรวมเล่ม นอกจากภาคหลักแล้ว เซนต์เซย์ย่ายังได้รับการแต่งภาคเสริมขึ้นอีกหลายภาคด้วยกัน ได้แก่ ภาค Episode G , Next Dimension และ The Lost Canvas
เซนต์เซย์ย่าถูกสร้างขึ้นในรูปแบบของอะนิเมะ และออกฉายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี พ.ศ. 2529 โดยบริษัท โตเอแอนิเมชัน ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจนได้ออกอากาศติดต่อกันนานเกือบ 3 ปี นอกจากนี้ยังได้แพร่ภาพทางโทรทัศน์ในประเทศต่าง ๆ อีกหลายประเทศ ทั้งในแถบเอเชียด้วยกัน เช่น ประเทศจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ประเทศแถบยุโรป สหรัฐอเมริกา ละตินอเมริกา รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งมีการนำเซนต์เซย์ย่ามาออกฉายเมื่อปี พ.ศ. 2531 ทางไทยทีวีสีช่อง 3 โดยใช้ชื่อว่า "เซย่า เทพบุตรหมัดดาวหาง" จากนั้นก็ได้ออกอากาศซ้ำอีกในปี พ.ศ. 2547 ทางสถานีโทรทัศน์ยูบีซี (ทรูวิชั่นส์ ในปัจจุบัน) และมีการนำออกวางจำหน่ายในรูปแบบวีซีดีโดย บริษัท การ์ตูนอินเตอร์ จำกัด ด้วย นอกจากนี้เซนต์เซย์ย่ายังได้รับการดัดแปลงเป็นสื่อในรูปแบบอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ภาพยนตร์ ละครเวที เกม และของเล่นต่าง ๆ

7.ข้าชื่อ โคาทโร่
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ข้าชื่อโคทาโร่ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ข้าชื่อโคทาโร่ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ข้าชื่อโคทาโร่

ข้าชื่อโคทาโร่! (ญี่ปุ่นコータローまかりとおる! Kotaro Makaritoru!) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น แนวโชเน็น เขียนโดยทัชซึยะ ฮิรุตะ เริ่มลงตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์โคดันฉะ ในโชเน็นแม็กกาซีน เมื่อปีพ.ศ. 2525-2537 มีฉบับรวมเล่มออกมา 59 เล่ม และในปี พ.ศ. 2538-2544 มีฉบับรวมเล่มของซีรีส์ที่สอง Shin Kotaro Makaritoru! (Judohen) ออกมา 27 เล่ม และปีพ.ศ. 2544-2547 มีฉบับรวมเล่ม Kotaro Makaritoru! L ออกมาจนถึงเล่ม 8 (ยังไม่จบ)
ส่วนในประเทศไทย สมัยก่อนเป็นยุคของการ์ตูนไร้ลิขสิทธิ์ สำนักพิมพ์ต่างๆมีการแข่งขันกัน ดังนั้นสำนักพิมพ์ที่ตีพิมพ์การ์ตูนเรื่องนี้จึงใช้ชื่อต่างกันออกไป เช่น สำนักพิมพ์หมึกจีนใช้ชื่อว่าโคทาโร่ ส่วนทางสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ใช้ชื่อว่าโคทาโร่เช่นเดียวกัน และสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจโดยใช้ชื่อว่าข้าชื่อโคทาโร่ ซึ่งตีพิมพ์ลงในนิตยสารเดอะซีโร่(The Zero) ต่อมาหลังจากปีพ.ศ. 2531ได้ย้ายไปลงในนิตยสารAnimage Weekly ต่อมาทางเจ้าของลิขสิทธิ์ได้ออกมาสั่งห้ามสำนักพิมพ์ทุกสำนักพิมพ์ตีพิมพ์การ์ตูนที่ละเมิดลิขสิทธิ์ทุกเรื่อง
หลังจากที่เงียบหายไปนานถึง 5 เดือน เนื่องจากติดเรื่องลิขสิทธิ์ ทางสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจจึงได้ลงตีพิมพ์อีกครั้งเพราะได้ตกลงซื้อลิขสิทธิ์มาอย่างถูกต้อง ในนิตยสารรายสัปดาห์ KC.Weekly ในปี 2536 โดยเป็นตอนต่อตอนจากญี่ปุ่น ปีเดียวกันในเดือนกันยายนก็ได้ทำการพิมพ์รวมเล่มออกมา ซึ่งเป็นปกหนาชั้นเดียว (ราคา 30 บาท) ต่อมาในปี 2538 ทางสำนักพิมพ์ก็ได้ฤกษ์ออกฉบับปกสองชั้น และพิมพ์เรื่อยมายาวนานจนถึงปี 2546 ก็ออกจนครบ ประกอบด้วย ซีรีส์ชุดที่1 ข้าชื่อโคทาโร่ 59 เล่ม ซีรีส์ชุดที่2 ข้าชื่อโคทาโร่ (ใหม่) ภาคยูโด 27 เล่ม และซีรีส์ชุดสุดท้าย ข้าชื่อโคทาโร่ ภาค L 8 เล่ม
เรียกได้ว่าการ์ตูนเรื่องข้าชื่อโคทาโร่ใช้เวลาในการออกยาวนานที่สุดตั้งแต่ยุคก่อนลิขสิทธิ์ ปัจจุบันทางสำนักพิมพ์ได้มีการพิมพ์ซ่อม แต่ออกมาได้แค่ครึ่งๆ กลางๆ ค้างอยู่เล่มที่ 13 และไม่มีการตีพิมพ์ออกมาอีก ข้าชื่อโคทาโร่จึงเป็นการ์ตูนที่หาเก็บสะสมได้ยากมาก

8.ซิตี้ฮันเตอร์
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ซิตี้ฮันเตอร์ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ซิตี้ฮันเตอร์ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ซิตี้ฮันเตอร์ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ซิตี้ฮันเตอร์

ซิตี้ฮันเตอร์ (ญี่ปุ่นシティーハンター Sitī Hantā) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องและภาพโดย ซึกาสะ โฮโจ ตีพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่นโดยสำนักพิมพ์ชูเอชะ ตีพิมพ์ในประเทศไทยโดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ รวม 35 เล่ม ส่วนเล่มที่ถูกตีพิมพ์อีกครั้งในรูปแบบเวอร์ชันฉบับสมบูรณ์ (Complete Edition) มี 32 เล่มกับเล่มพิเศษ illustration อีก 3 เล่มก็คือ illustration X, illustration Y และ illustration Z รวมทั้งหมด 35 เล่มของเวอร์ชันฉบับสมบูรณ์ ต่อมาถูกนำมาทำเป็นแอนิเมชันซีรีส์ โดยซันไรส์ ในปีพ.ศ. 2530 - พ.ศ. 2531 จำนวน 51 ตอน, ในปี พ.ศ. 2531 - พ.ศ. 2532 จำนวน 63 ตอน, ในปี พ.ศ. 2532 - พ.ศ. 2533 จำนวน 13 ตอน และในปี พ.ศ. 2534 จำนวน 13 ตอน ทำเป็นอะนิเมะฟิล์มและตอนพิเศษจำนวน 4 ตอนก็คือ City Hunter .357 Magnum ในปีพ.ศ. 2532"อะนิเมะฟิล์ม", City Hunter The Secret Service ในปีพ.ศ. 2539"ตอนพิเศษ", City Hunter The Motion Picture ในปีพ.ศ. 2540"ตอนพิเศษ" และ City Hunter Death of the Vicious Criminal Ryo Saeba (Death of Evil Ryo Saeba) ในปี พ.ศ. 2542 "ตอนพิเศษ" และทำเป็นโอวีเอจำนวน 2 ตอนในปีพ.ศ. 2533 ก็คือ City Hunter Bay City Wars และ City Hunter Million Dollar Conspiracy

9.เมียวโอเรย์ เทพยุทธปราบมาร
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เมียวโอเรย์ เทพยุทธปราบมารผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เมียวโอเรย์ เทพยุทธปราบมาร

ผลงานเขียนของ....KIKUCHI TOSHIO..

10.น้ำตาเพชรฆาต
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ น้ำตาเพชฌฆาตผลการค้นหารูปภาพสำหรับ น้ำตาเพชฌฆาต

ผลงานของนักเขียนรุ่นเก๋าอย่าง อ.อิเคงามิ เรียวอิจิ 

11.Slamdunk
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ slamdunkผลการค้นหารูปภาพสำหรับ slamdunk
สแลมดังก์ (ญี่ปุ่นスラムダンク Suramu Danku) (อังกฤษSlam Dunk) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นเขียนโดย ทาเคฮิโกะ อิโนอุเอะ ตีพิมพ์และได้ลิขสิทธิ์โดย บริษัท เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด ปัจจุบัน ในประเทศไทยได้จบภาค 1 ไปแล้ว ซึ่งหวังว่าผู้เขียนจะเขียนภาค 2 ต่อ (ขณะนี้ อ.อิโนอุเอะ กำลังเขียนเรื่อง วากาบอนด์ กับเรื่อง REAL อยู่) โดยในส่วนของภาค 1 นั้น ได้มีการทำเป็นการ์ตูนแอนิเมชันและวิดีโอเกมแล้ว

12.Dr.K
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Dr.Kผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Dr.K

ซุปเปอร์ดอกเตอร์เค (ญี่ปุ่นスーパードクターK ซูปาโดคุตาเค ; อังกฤษSuper Doctor K) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นแนวแพทย์ แต่งโดย คาซึโอะ มาฟุเนะ อดีตเคยลงตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นแม็กกาซีนรายสัปดาห์ ของสำนักพิมพ์โคดันฉะ ฉบับรวมเล่มมีทั้งหมด 44 เล่มจบ และได้ตีพิมพ์ภาคต่อมาคือ Doctor K โดยเดินเรื่องเป็นน้องสาวของ K แทน ภาคนี้มีฉบับรวมเล่มออกมา 10 เล่มจบ ส่วน "ดอกเตอร์เค ภาค 3" หรือ "K2" ซึ่งในภาคK2 นี้จะเป็นส่วนเสริมเนื้อเรื่องในช่วยท้ายของ Doctor K (ภาค2) ว่ามีความเป็นมายังไง ปัจจุบันกำลังลงตีพิมพ์อยู่ในนิตยสาร อีฟนิ่ง ของสำนักพิมพ์โคดันฉะ
ในประเทศไทย เมื่อราวๆ 10 กว่าปีก่อน ซุปเปอร์ดอกเตอร์เค เคยถูกตีพิมพ์ลงในนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ของสำนักพิมพ์ชื่อดังหลายแห่งในยุคนั้น แต่ปัจจุบัน ดอกเตอร์เค ทุกภาค ได้ลิขสิทธิ์ตีพิมพ์และจัดจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ
ซุปเปอร์ดอกเตอร์เค เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวงการแพทย์ทั้งที่สามารถทำได้จริงในอดีตและปัจจุบัน รวมไปถึงทฤษฎีและแนวทางการรักษาที่อาจจะเป็นไปได้ในอนาคต เน้นด้านการศัลยกรรม(ผ่าตัด) โดยมี Dr.K เป็นตัวเอก

13.ได ตะลุยแดนเวทย์มนต์

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ได ตะลุยแดนเวทย์มนต์ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ได ตะลุยแดนเวทย์มนต์

ไดตะลุยแดนเวทมนตร์ (ญี่ปุ่นドラゴンクエスト・ダイの大冒険 Doragonquesuto・Daibouken ; อังกฤษDragon Quest: Dai's Great Adventure) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่ถูกเขียนขึ้นจากเค้าโครงเกม ดราก้อนเควสต์ อันแสนโด่งดัง แต่งเรื่องโดย ริคุ ซันโจ วาดภาพโดย โคจิ อินาดะ
แรกเริ่ม ไดตะลุยแดนเวทมนตร์ ได้เริ่มลงตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ ในฐานะการ์ตูนเรื่องสั้นที่มีความยาวเพียงไม่กี่ตอนเท่านั้น แต่ต่อมาก็ได้ลงตีพิมพ์เป็นเรื่องยาวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 ถึงปี พ.ศ. 2539 รวมความยาวทั้งสิ้น 344 ตอน ส่วนในประเทศไทย สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ได้เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ และนำลงตีพิมพ์ในนิตยสารซีคิดส์ ตั้งแต่ฉบับปฐมฤกษ์เป็นต้นมา จนกระทั่งจบบริบูรณ์

14.GTO
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การ์ตูน gtoผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การ์ตูน gtoผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การ์ตูน gto

จีทีโอ คุณครูพันธุ์หายาก (ญี่ปุ่นグレート・ティーチャー・オニヅカ Gurēto Tīchā Onizuka) (อังกฤษGreat Teacher Onizuka) เป็น การ์ตูนญี่ปุ่นและแอนิเมชัน รวมทั้ง ละครญี่ปุ่น เรื่องและภาพโดย โทรุ ฟุจิซาวะ ตีพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่นโดยสำนักพิมพ์โคดันฉะ ตีพิมพ์ในประเทศไทยโดยสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ รวมทั้งหมด 25 เล่ม

15.ซึบาสะ
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ซึบาสะ
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ซึบาสะผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ซึบาสะ

กัปตันซึบาสะ (ญี่ปุ่นキャプテン翼 Kyaputen Tsubasa ทับศัพท์จาก Captain Tsubasa) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นเกี่ยวกับฟุตบอล มีการจัดทำหลายภาคต่อมา และได้จัดทำเป็นวิดีโอเกมส์ และภาพยนตร์การ์ตูน เป็น เรื่องราวของเด็กชายโอโซระ ซึบาสะ ซึ่งได้รับการสอนฟุตบอลจากอดีตนักฟุตบอลทีมชาติบราซิล เชื้อสายญี่ปุ่นชื่อโรแบร์โต ฮอนโก และร่วมทีมนันคัตสึเพื่อเข้าชิงชัยฟุตบอล แห่งชาติทั้งระดับประถมและมัธยม
หนังสือการ์ตูนเรื่องกัปตันซึบาสะ ปัจจุบันได้มีทั้งหมด 4 ภาค โดยภาคแรกออกมาในช่วง ปี พ.ศ. 2524 - พ.ศ. 2531 มีจำนวน 37 เล่ม, ภาคเยาวชนโลก ออกมาในช่วง พ.ศ. 2537 - พ.ศ. 2540 มีจำนวน 18 เล่ม, ภาค Road to 2002 ออกมาในช่วง พ.ศ. 2544 - พ.ศ. 2547 มีจำนวน 15 เล่ม, และ ภาค Golden 23 ออกมาตั้งแต่ปี 2548 ถึงปัจจุบัน
ผลงานบางส่วนในเรื่องซึบาสะนี้ ได้มีการเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาด้วย [1]

16.ผีน้อย คิวทาโร่
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ผีน้อย คิวทาโร่ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ผีน้อย คิวทาโร่

อสูรน้อยคิทาโร่ (ญี่ปุ่นゲゲゲの鬼太郎 GeGeGe no Kitarō เกะเกะเกะ โนะ คิทะโร) เป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่น แนวแอ็คชั่นแฟนตาซี ที่สร้างมาจากการ์ตูนเรื่อง อสูรน้อยคิทาโร่ นำแสดงโดย เอย์จิ เวนท์ซเรนะ ทานากะคันเป ฮาซามะโย โออิซุมิ เข้าฉายในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 28 เมษายนพ.ศ. 2550 และเข้าฉายในประเทศไทย วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 เฉพาะโรงภาพยนตร์เครือเอเพ็กซ์ เท่านั้น

17.คีทาโร่
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ คิทาโร่

คิทาโร (ญี่ปุ่น喜多郎) เกิดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1953 มีชื่อจริงว่า มะซะโนริ ทะคะฮะชิ (高橋正則) ในเมืองโทะโยะฮะชิ จังหวัดไอจิประเทศญี่ปุ่น ในครอบครัวชาวนาที่เลื่อมใสในลัทธิชินโต
คิทาโรเป็นนักดนตรีและนักประพันธ์ดนตรีแบบนิวเอจ ที่ใช้เครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ (ซินทีไซเซอร์) ในการสร้างผลงาน สำหรับนามแฝง "คิทาโร" (Kitaro) นั้นเพื่อนๆ ตั้งให้ในภายหลัง ตามตัวละครตัวหนึ่งในภาพยนตร์การ์ตูนคิทาโรทางโทรทัศน์ของญี่ปุ่น
คิทาโรเป็นนักดนตรีที่เรียนดนตรีด้วยตัวเอง ถึงแม้ว่าไม่สามารถอ่านโน้ตได้ เขาสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้หลายอย่าง เช่น กีตาร์, ซินธีไซเซอร์, กลอง taiko, ฟลุต เป็นต้น

18.ไอ้เขี้ยวเงิน
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ไอเขี้ยวเงินผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ไอเขี้ยวเงิน
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ไอเขี้ยวเงินผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ไอเขี้ยวเงิน

เขียนโดย โยชิฮิโรทากาฮาชิ


19.เรียกเขาว่า อีกา!

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เรียกเขาว่า อีกาผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เรียกเขาว่า อีกา

เรียกเขาว่าอีกา Crows เป็นผลงานของ Hiroshi Takahashi และ TETSUHIRO HIRAKAWA ถูกสร้างเป็น ภาพยนตร์ 3 ภาค CROWS ZERO I , CROWS ZERO II และ CROWS EXPLODE และยังสร้างเป็นอะนิเมะชื่อว่า CROWS ONE
มังงะ
CROWS ZERO I เรียกเขาว่าอีกา I เก็นจิ ทาคิยะ เพิ่งเข้ามาโรงเรียนและต้องการเป็นอันดับหนึ่งเพื่อที่จะล้ม เซริซาวะ ทามาโอะ และ บันโด ฮิเดโตะ (กลุ่มบุโซเซนเซน) คนที่เก่งทีสุดคือ ลินดาแมน
CROWS ZERO II เรียกเขาว่าอีกา II หลังจาก เก็นจิ ทาคิยะ ล่ม เซริซาวะ และ บันโด ได้ก็ได้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแต่ก็แพ้ ลินดาแมน (ฮายาชิดะ เมงุมิ) อยู่ดีและหลังจากนั้นก็เกิดเรื่องกับ รร.โฮเซน จึงได้เปิดศึกกับโฮเซนอีกครั้งหลังจากรุ่นที่จบไปแล้วได้ทำสัญญาสงบศึกไว้ คนที่เก่งที่สุดคือ ลินดาแมน
CROWS ภาคของ โบยะ ฮารุมิจิ เป็นภาคหลังจากกลุ่ม เก็นจิ ทาคิยะ จบไปแล้ว แต่ ลินดาแมน,บันโด,3สิงห์ ยังไม่จบ คนที่เก่งที่สุดคือ ลินดาแมน โบยะเกือบชนะได้ ตอนพิเศษ โบยะ ฮารุมิจิ,บันโด ฮิเดโตะ,ปง-มาโค-ฮิโรมิ,Supplementary Story : ตอน บุโซเซ็นเซ็นรุ่นที่4
WORST ก็ต่อด้วยภาคของ ซึกิชิมะ ฮานะ ซึ่งภาคนี่ยังมีรุ่นพี่จากภาค CROWS คือ เซ็ตต้อน,บุชเชอร์ และอื่นๆ คนที่เก่งที่สุดคือ ฮานากิ กุริโกะ ตอนพิเศษ QP Azuma Ryo Gaiden

20.หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ หมัดเทพเจ้าดาวเหนือผลการค้นหารูปภาพสำหรับ หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ

ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ (ญี่ปุ่น北斗の拳 Hokuto no KenอังกฤษFist of the North Star) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นแนวต่อสู้ แต่งเนื้อเรื่องโดย บุรอนซอน และวาดภาพโดย เท็ตสึโอะ ฮาร่า ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารโชเน็นจัมป์ ปี พ.ศ. 2526-2531 ฉบับรวมเล่มมีทั้งหมด 27 เล่มจบ ต่อมาได้ถูกสร้างเป็นอะนิเมะ เกม โอวีเอ รวมถึงภาพยนตร์จอเงิน (ทั้งแบบใช้คนแสดง และแบบอะนิเมะ) เรื่องราวกล่าวถึงเหตุการณ์หลังสงครามโลกครั้งที่ 3 ในปี ค.ศ. 199X ซึ่งทำให้โลกกลับคืนสู่ยุคเข็ญและความป่าเถื่อน มีเพียง เคนชิโร่ บุรุษผู้มีรอยแผลเป็นรูปดาวเหนือ 7 แห่งบนหน้าอกเท่านั้นที่จะสามารถกอบกู้โลกได้ ด้วย "หมัดอุดรเทวะ" เพลงหมัดที่สามารถทะลวงจุดตายของคู่ต่อสู้ ส่งผลให้อวัยวะภายในแหลกเหลว และร่างกายระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ ได้ในพริบตา
ในปี พ.ศ. 2538 ทางฮอลลีวู้ดได้สร้างภาพยนตร์เรื่อง "Fist of the Northern Star" โดยนำเค้าโครงมาจากการ์ตูนเรื่องนี้ด้วย

21.Dr.Slump & Arale
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Dr.Slump & Araleผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Dr.Slump & Araleผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Dr.Slump & Arale

ดร.สลัมป์ กับหนูน้อยอาราเล่ (ญี่ปุ่นDr. (ドクター) スランプ Dokutā Suranpu?) (อังกฤษDr. Slump) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น วาดโดย อากิระ โทริยามา (ญี่ปุ่น鳥山明 Toriyama Akira โทะริยะมะ อะกิระ) อะนิเมะของการ์ตูนเรื่องนี้ ได้มีการนำกลับมาวาดใหม่ในปี 2540 โดยมีการปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่อง และสีสันของตัวละครจากของเดิม

22.จีซัส
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ จีซัสผลการค้นหารูปภาพสำหรับ จีซัสผลการค้นหารูปภาพสำหรับ จีซัส

จีซัส (ญี่ปุ่นジーザス Jīzasu ทับศัพท์จาก Jesus) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นแต่งโดยโยชิฮิเดะ ฟุจิวาระ เป็นเรื่องราวของ "จีซัส" นักฆ่าอาชีพที่แอบหลบหนี โดยการแฝงตัวเป็นอาจารย์มัธยมที่เสียชีวิตในช่วงเวลาและมีลักษณะหน้าตาใกล้เคียงกัน ซึ่งได้ใช้ชีวิตหนึ่งปีเป็นอาจารย์มัธยมพร้อมรอเวลาที่จะนำเฮโรอีนไปส่งขายในตลาดมืด ซึ่งในระหว่างที่ปลอมตัวเป็นอาจารย์ได้ถูกองค์กรร้าย 24 คอยจับตามอง แล้วจ้องเล่นงาน ในขณะเดียวกันทางจีซัสต้องการล้างแค้นแทนเพื่อนในกลุ่ม "กระต่ายทะเลทราย" ที่ถูกสังหารหมู่

23.Naruto

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Narutoผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Naruto

นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ (ญี่ปุ่นナルト Naruto) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น เนื้อหาเกี่ยวกับนินจา เรื่องและภาพโดยมะซะชิ คิชิโมะโตะ ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2542 ในนิตยสาร "โชเน็งจัมป์" ในประเทศญี่ปุ่น[7] โดยมีโครงเรื่องเดิมมาจากผลงานที่คิชิโมโตะเคยเสนอให้สำนักพิมพ์ในปี 2540[8] ต่อมาได้ถูกสร้างเป็น อะนิเมะ และ เกม หลายต่อหลายภาค
ส่วนในประเทศไทย นินจาคาถาโอ้โฮเฮะได้ถูกตีพิมพ์ในหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์บูม ภายใต้ลิขสิทธิ์ของบริษัทเนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ ส่วนหนังสือการ์ตูนมีทั้งหมด 72 เล่ม ส่วนภาคอะนิเมะในชื่อไทยมี 2 ภาค คือ "นารูโตะ นินจาจอมคาถา" และ "นารูโตะ ตำนานวายุสลาตัน" เป็นลิขสิทธิ์ของ "โรส วิดีโอ" และเคยออกฉายทาง สถานีโทรทัศน์ไอทีวี (ไทยพีบีเอส ในปัจจุบัน) และ ช่อง5 "นารูโตะ นินจาจอมคาถา" มีภาคมูฟวี่ 3 ภาค และ "นารูโตะ ตำนานวายุสลาตัน" มีภาคมูฟวี่ 8 ภาค และมีการฉายฉบับเสียงพากย์ภาษาไทย - อังกฤษผ่านทางช่องการ์ตูนเน็ตเวิร์ก (ทรูวิชั่นส์) โดยจะเรียกชื่อเรื่องว่า นารูโตะ และใช้ทีมพากย์ภาษาไทยของทางการ์ตูนเน็ตเวิร์ก เอง และช่องรายการดาวเทียม "Gang Cartoon Channel" ทีมพากษ์โรส วิดีโอ
นารูโตะคือหนึ่งในการ์ตูนที่โด่งดังที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และได้รับความนิยมประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในอเมริกาและยุโรป มีเนื้อหาเกี่ยวกับนินจา ศาสตร์เวทมนตร์ โดยมีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นโบราณผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ปรัชญาและคำสอนที่กินใจ ปมฝั่งใจในวัยเด็กที่แตกต่างกันของแต่ละคนเชื่อมโยงสู่อตีตอย่างคาดไม่ถึง การเรียนรู้ถึงความเจ็บปวดของสงครามที่ทำให้เกิดความผิดพลาดในจิตใจของมนุษย์

24.ดราก้อนบอล

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ดราก้อนบอลผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ดราก้อนบอล
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ดราก้อนบอลผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ดราก้อนบอล

ดราก้อนบอล (ญี่ปุ่นドラゴンボール Doragon Bōru, ทับศัพท์จาก Dragon Ball) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น ผลงานของอากิระ โทริยาม่า ลงพิมพ์ในนิตยสารโชเนนจัมป์ตั้งแต่ พ.ศ. 2527 - พ.ศ. 2538 และรวมเป็นฉบับรวมเล่มได้ 42 เล่ม ในประเทศไทยเคยลงตีพิมพ์ใน ทาเล้นท์ และ ซีโร่ ในช่วงก่อนที่มีลิขสิทธิ์การ์ตูน และหลังจากนั้นได้ตีพิมพ์ในหนังสือการ์ตูนบูม ภายใต้ลิขสิทธิ์ของบริษัท เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด
เนื้อเรื่องของดราก้อนบอลเกี่ยวกับการผจญภัยของ ซุน โกคู ในการรวบรวมดราก้อนบอลให้ครบ 7 ลูก เพื่อขอพรหนึ่งข้อจากเทพเจ้ามังกร โดยระหว่างการเดินทางโกคูต้องพบกับเพื่อนฝูงและอุปสรรคต่างๆ
ลักษณะการดำเนินเรื่องช่วงแรก น่าจะเอามาจากเรื่องไซอิ๋ว ซึ่งกำหนดให้ซุนโกคู มีชื่อเดียวกับซุนหงอคง ให้มีปิศาจหมู อูลอน ลักษณะคล้าย ตือโป้ยก่าย
ดราก้อนบอลมีสร้างมาหลายภาคทั้งในฉบับมังงะและอะนิเมะ และยังมีการนำไปทำเป็นวิดีโอเกมหลายภาค และภาพยนตร์ ดราก้อนบอล นำแสดงโดย จัสติน แชตวินเอ็มมี รอสซัม และ โจว เหวินฟะ
และในปี พ.ศ. 2552 ดราก้อนบอล ได้ถูกนำมาสร้างใหม่ขึ้นอีกครั้งในชื่อว่า ดราก้อนบอล ไค โดยจะนำเนื้อหาของภาค ดราก้อนบอล Z มาสร้างใหม่ในระบบ High Definition Television (โทรทัศน์ความละเอียดสูง) เนื้อหาจะถูกตัดต่อใหม่ ให้กระชับฉับไวขึ้น เสียงประกอบ และ ดนตรี จะแต่งขึ้นมาใหม่ทั้งหมดให้เหมาะกับยุคนี้ แต่ยังคงใช้นักพากย์เดิม และจะเริ่มออกอากาศในวันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2552 เวลา 09.00 น. (ตามเวลาประเทศญี่ปุ่น) ทางช่อง ฟูจิทีวี ดราก้อนบอลนั้นได้รับความนิยมทั่วโลกสูงมากจนหนังสือการ์ตูนดราก้อนบอลตีพิมพ์ พ.ส.2527-2538 มีทั้งหมด42เล่มยอดขายรวมเล่ม240ล้านเล่มทั่วโลกยอดขายอันดับสองรองเพียงวันพีชเท่านั้น. ดราก้อนบอลเป็นหนึ่งไนการ์ตูนอันน้อยนิด ที่ยอดขายรายเล่มดีกว่าวันพีชโดยยอดรายเล่มเฉลี่ยอยู่ที่ 5.7 ล้านเล่มต่อเล่ม

😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋😋
การ์ตูนเรื่องไหนอยู่ในดวงใจท่านบ้างครับ